ไทย U23 ถล่มติมอร์ เลสเต 6-1

ไทย U23 ถล่มติมอร์ เลสเต 6-1 กลายเป็นมากกว่าผลสกอร์ที่แปะอยู่บนหน้าจอ เพราะถ้าคุณได้ติดตามแบบจับจ้องทุกสัมผัสบอล จะรู้เลยว่านี่คือเกมที่โค้ชวังใช้เป็นเวทีทดลอง ปรับแผน ปรับสมดุล และทดสอบวิธีคิดทางฟุตบอลของนักเตะแต่ละคนมากกว่าการยิงประตูคู่แข่งให้ยับ เกมนี้จึงมีทั้งแสงและเงา ทั้งความมั่นใจและความเปราะบาง ทั้งความหวังและสัญญาณเตือน ซึ่งถ้าเราจะมองทีมนี้แบบคนดูบอลเป็น เราต้องมองลึกกว่าเสียงเชียร์และตัวเลขบนสกอร์บอร์ด

โครงทีมไม่ใช่ชุดจัดเต็ม แต่เห็นลายเซ็นของทีมชัดเจน

แม้จะไม่ได้จัดชุดที่ดีที่สุดลงสนาม แต่โครงสร้างทีมของไทยยังมีแกนชัดเจน ผู้เล่นอย่าง ยศกร บูรพา, พิชิตชัย เศียรกระโทก, สิทธา บุญหล้า และสิรภพ วันดี ถูกวางไว้ในตำแหน่งหลักที่พวกเขาคุ้นเคย มันเหมือนเป็นการบอกว่า นี่คือกระดูกสันหลังที่ไว้ใจได้ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ถูกเวียนไปตามจังหวะและความตั้งใจของโค้ชวัง เพื่อดูว่าใครจะตอบสนองกับรูปแบบต่างๆ ได้ดีแค่ไหน

แต่การหมุนเวียนผู้เล่นแบบนี้ก็มีด้านลบ คือการประสานจังหวะไม่แนบแน่นพอ เกมรุกช่วงครึ่งแรกค่อนข้างขาดตอน ขาดตัวเชื่อมเกม ปีกสองฝั่งยังไม่ค่อยช่วยสร้างความแตกต่างในการไล่กดแบ็กของติมอร์หรือบีบพื้นที่ให้แคบลง ซึ่งนี่คือจุดที่คนดูบอลจริงๆ จะหยิบมาพูด ไม่ใช่แค่มองว่า ยิงได้ 6 ลูก ก็คือโหด

พอเห็นแบบนี้ ก็ต้องพูดตรงๆ ว่า ชัยชนะเกมนี้เป็นเหมือนการได้ลองเครื่องยนต์ ไม่ใช่การเปิดคันเร่งเต็มกำลัง

ไทย U23 ถล่มติมอร์ เลสเต 6-1 กับโมเมนต์ที่เกมเปลี่ยน อิคลาสลงมาพลิกโฉม

ผมอยู่ในสนามและเห็นโมเมนต์นี้แบบเต็มตา จังหวะที่ อิคลาส สันหรน ถูกส่งลงมาแทน ชินเงิน ภู่ตันหยง ในช่วงท้ายครึ่งแรก มันเหมือนฉีดกระแสไฟเข้าเส้นเลือดฝั่งซ้ายของทีม ความต่างของสปีด ความมั่นใจ และการกล้าเลี้ยงกินตัวทันทีทำให้แนวรับติมอร์แกว่ง โค้ชวังรู้เลยว่า เราต้องการความกวน ความป่วน ความกล้าเล่นแบบไม่คิดมาก และอิคลาสเป็นคำตอบ

ทันทีที่เขาลงมา ไทยเริ่มมีช่องเบียดริมเส้นมากขึ้น เกมรุกเริ่มมีความไหลลื่น สปีดบอลเพิ่มขึ้น การดันสูงสร้างความกดดันได้ต่อเนื่อง จังหวะต่อเนื่องสู่ประตู 1-0 จึงไม่ได้มาจากดวง แต่มาจากการ กระตุ้นชีพจรของเกม

นี่แหละสิ่งที่ผมชอบในทีมชาติไทยยุคนี้ เมื่อมีตัวที่เล่นแบบ fearless ลงมา เกมมันถูกยกระดับขึ้นอีกขั้น

ยกเครดิตให้ติมอร์-เลสเต นี่คือการแข่งขัน ไม่ใช่การกดขี่ทีมเล็ก

ถ้าใครดูแค่สกอร์หลังเกม อาจคิดว่าโดนยิงหก = อ่อน แต่ในสนามจริง ผมเห็นแววของทีมที่พัฒนาอย่างจริงจัง ติมอร์-เลสเตไม่ได้มาแบบทีมที่รอแพ้ พวกเขามีแผน มีแท็กติก และวินัยเกมรับที่ดีในระดับหนึ่ง

ตอนสกอร์ 2-0 พวกเขายังยืนโซนรับได้อยู่ ยังมีจังหวะสวนกลับที่ทำให้แนวรับไทยต้องถอย ซึ่งจริงๆ แล้วการเสีย 1 ประตูของไทยไม่ได้เป็นเรื่องแย่ มันกลับเป็นโอกาสเรียนรู้ นักเตะจะได้ถูกย้ำว่าห้ามหลุดสมาธิ ต่อให้คู่แข่งกดน้อยกว่าเราก็ตาม

ผมชอบทัศนคติดีของทีมติมอร์ คือแพ้ก็ยังพยายามเล่นตามระบบ ไม่ได้ปล่อยเกมให้เละ และการยิงไทยได้ 1 ลูกก็เป็นสัญญาณว่าอาเซียนกำลังขยับขึ้นมาเรื่อยๆ นี่ไม่ใช่ยุคที่ไทยจะเดินลงสนามแล้วชนะได้เพราะชื่อชั้นเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

ไทย U23 ถล่มติมอร์ เลสเต 6-1 และประกายเพชรในแนวรับ ชนภัช บัวพันธ์

ยอมรับเลยว่าถ้าไม่มองลึก คุณอาจไปสนใจแต่เกมรุก แต่ตัวที่ผมเห็นคุณค่ามากที่สุดในเกมนี้ คือคนที่อยู่ด้านหลัง ชนภัช บัวพันธ์

เขาเล่นด้วยความนิ่ง มั่นคง และอ่านเกมขาด มีจังหวะบล็อกสำคัญ 2–3 ครั้ง และเวลาออกบอลก็เลือกมุมที่เหมาะ ไม่ใช่การเคลียร์มั่วๆ จังหวะยืนตำแหน่งก็แม่น ไม่วิ่งทับตำแหน่งคู่เซนเตอร์หรือแบ็ก ทำให้แนวรับดูมีระเบียบขึ้น

แม้ทีมจะเสีย 1 ลูก แต่การเสียครั้งนี้ไม่ได้มาจากเขาพลาด หากมาจากช่องว่างตอนเปลี่ยนจากเกมรุกเป็นเกมรับ ซึ่งเป็นเรื่องของทั้งทีม ไม่ใช่ตัวบุคคล

และแน่นอน อิคลาส ที่ลงมาเป็นตัวเปลี่ยนเกม และ คคนะ คำยก ที่ลงมาปั้นเกมในครึ่งหลัง ก็สร้างความรู้สึกว่า นี่คือนักเตะที่สามารถเปลี่ยนทิศทางเกมได้จริง คนประเภท Match Winner ที่ตัวเลขเวลาในสนามไม่ใช่ปัญหา

ในฐานะคนดูบอล ผมพูดได้เต็มปากว่า ชนภัชนี่แหละคืออนาคตทีมชาติชุดใหญ่ถ้าเดินต่อทางนี้

6–1 ไม่ใช่หลักฐานความเเข็งแกร่ง แต่คือกระจกสะท้อนจุดบกพร่อง

ผล 6-1 ดูสวย เหมือนหนังจบดี แต่ถ้าคุณมองบอลแบบวิเคราะห์ คุณจะเห็นหลายอย่างที่ต้องเกลาให้เนียนขึ้น เช่น

  • จังหวะขึ้นเกมยังสะดุด
  • การจ่ายบอลเข้าพื้นที่สุดท้ายยังไม่แม่นยำ
  • ตัวจริงกับตัวสำรองคุณภาพยังมีช่องว่าง
  • บางจังหวะเปิดพื้นที่ให้คู่แข่งสวนกลับง่ายเกินไป
  • transition defense ยังช้า

แต่ข้อดีคือ เกมนี้ทำให้ความเชื่อมั่นในทีมเพิ่มขึ้น มันสร้างแรงคึกคักให้แฟนบอล ให้บรรยากาศทีม ให้โมเมนตัมในทัวร์นาเมนต์ และในยุคที่การสื่อสารออนไลน์มีผลกับจิตวิทยามาก การชนะแบบนี้ยังช่วยลดแรงดันจากแฟนบอลด้วย โดยเฉพาะหลังมีดราม่า ทัวร์ลงเพจซีเกมส์ ในก่อนหน้านี้

ท้ายที่สุดเกมนี้คือบทเรียนสำคัญก่อนเจอทีมที่แข็งขึ้นอย่างเวียดนามและอินโดนีเซีย นั่นแหละของจริงที่เราต้องรอพิสูจน์

สำหรับใครที่ติดตามเชียร์และชื่นชอบการวิเคราะห์เกมแบบจริงจัง ufa365 ฟุตบอลไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ แต่คือกระบวนการ และในเกมนี้ ผมเห็นความหวังในกระบวนการของทีมไทย ชัดเจนกว่าสกอร์บนบอร์ดเสียอีก

By Rayban

เรย์แบน นักเขียนบทความสายเดิมพันกีฬา เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์เกมการแข่งขันและกลยุทธ์การเดิมพัน เขามีสไตล์การเขียนที่เน้นข้อมูลเชิงลึก สถิติที่แม่นยำ และการอัปเดตข่าวสารล่าสุด เพื่อให้ผู้อ่านสามารถตัดสินใจวางเดิมพันได้อย่างมีประสิทธิภาพ